กิจกรรมและงานที่มอบหมาย

1.ค้นคว้าทฤษฎี หลักการหรือแนวคิด เกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กรสมัยใหม่


ไคเซ็น (Kaizen)


               ความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นความอัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งหลายๆ ฝ่ายไม่ว่านักวิชาการ นักธุรกิจ หรือนักหนังสือพิมพ์ได้ศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การควบคุมคุณภาพรวม กิจกรรมกลุ่มย่อย ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม ระบบการจ้างงานตลอดชีวิต และการจ่ายค่าจ้างตามระบบอาวุโส แต่ก็ยังไม่พบความจริงที่อยู่เบื้องหลังการจัดการแบบญี่ปุ่นที่เป็นแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใครในโลก นั้นคือ ไคเซ็น (Kaizen)
               ไคเซ็นเป็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น หมายถึง การปรับปรุงทุกๆ ด้านของการดำรงชีวิต ชีวิตในการทำงาน ชีวิตในสังคม ชีวิตภายในบ้านจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอโดยทุกคนต้องเกี่ยวข้องตลอดเวลา
                กลยุทธ์ของไคเซ็นคือคำกล่าวที่ว่า ไม่มีสักวันเดียวที่ผ่านไปโดยไม่มีการปรับปรุงในส่วนใดส่วนหนึ่งของบริษัท

ไคเซ็นกับการบริหาร
                การบริหารแบบญี่ปุ่นมีหลักยึด 2 ประการ คือ การดำรงรักษาไว้และการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
                การดำรงรักษาไว้ หมายถึง การรักษาระดับมาตรฐาน มอบหมายให้ทุกคนปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิธีการทำงาน ฝ่ายบริหารต้องกำหนดเป้าหมาย นโยบาย กฎเกณฑ์ สั่งการให้ทำ และควบคุมการทำงาน ถ้าพนักงานปฏิบัติได้แต่ไม่ทำต้องมีบทลงโทษทางวินัย ถ้าปฏิบัติไม่ได้จะต้องมีการฝึกอบรมให้หรือกำหนดมาตรฐานใหม่
                สำหรับการปรับปรุง เนื่องจากฝ่ายบริหารระดับสูง มีความชำนาญงาน จึงเริ่มคิดปรับปรุงงานให้ดีขึ้น เมื่อพนักงานปฏิบัติได้ก็ปรับมาตรฐานให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และการแสวงหาสิ่งใหม่หรือนวัตกรรม (Innovation) นั่นคือ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้
                เนื่องจากไคเซ็นเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่จะดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้งและเกี่ยวข้องกับทุกคนในองค์กรและทุกคนในระดับต่างๆ พนักงานอยู่ในระดับใดก็ไคเซ็นในระดับนั้น โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงจะต้องไคเซ็นและมุ่งนวัตกรรมมากกว่าระดับล่าง

ไคเซ็นกับกลุ่มควบคุมคุณภาพ
                 คงไม่มีใครค้านถึงคุณค่าของการปรับปรุง เมื่อใดและที่ใดมีการปรับปรุงพัฒนา ก็จะมีผลไปสู่การปรับปรุงจะต้องยอมรับว่า มีปัญหา เสียก่อน ไคเซ็นจะยอมรับปัญหา และมีการตรวจสอบปัญหาแล้วนำไปสู่การแก้ปัญหา ซึ่งต้องอาศัยเครื่องมือหลายอย่าง การควบคุมคุณภาพก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ได้มีความพยายามปรับปรุงการควบคุมคุณภาพ ตลอดมาจนถึงกับตั้งคณะกรรมการควบคุมคุณภาพที่สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของญี่ปุ่น เรียกย่อๆ ว่า JUSE (Union of Japanese Scientists and Engineers) ในปี ค.ศ. 1940 และต่อมาได้เชิญเดมิงให้มาสอนการควบคุมคุณภาพในญี่ปุ่น เดมิงได้เสนอให้ปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องโดยใชช้วัฏจักรเดมิง ซึ่งเน้นความสำคัญที่เกี่ยวข้องกันระหว่างการวิจัย การออกแบบ การผลิต และการขาย เพื่อจะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นที่พอใจของลูกค้า เดมิงได้ทำนายว่า ญี่ปุ่นจะมีสินค้าที่มีคุณภาพมากมายในตลาดโลก วัฏจักรเดมิงประกอบด้วย PDCA
วัฏจักรเดมิงด้านธุรกิจอุตสาหกรรม

ไคเซ็นกับการควบคุมคุณภาพรวม
                  ผู้บริหารในกลุ่มปะเทศตะวันตกมองการควบคุมคุณภาพรวมเป็นเรื่องเกี่ยวข้องทางเทคนิคและมองกลุ่มควบคุมคุณภาพเป็นเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์อย่างเดียวเท่านั้น ผู้บริหารระดับสูงจึงไม่ให้ความสนใจเท่าาที่ควร
                  แต่ในญี่ปุ่นได้พัฒนากลยุทธ์ไคเซ็นเป็นเครื่องมือในการควบคุมคุณภาพรวมใช้ในการบริหาร จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักบริหารดีเยี่ยมในศตวรรษนี้ การควบคุมคุณภาพรวมได้รับการพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลา มีการนำเครื่องมือ 7 อย่างของกลุ่มควบคุมคุณภาพมาใช้กันอย่างกว้างขวาง
                  การควบคุมคุณภาพรวมในญี่ปุ่นมุ่งการปรับปรุงทางด้านการบริหารทุกๆ ระดับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้
                  1.  การประกันคุณภาพ
                  2.  การลดต้นทุน
                  3.  การผลิตได้ตามเป้าหมาย
                  4.  การส่งมอบสินค้าทันตามกำหนด
                  5.  ความปลอดภัย
                  6.  การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
                  7.  ปรับปรุงการเพิ่มผลผลิต
                  8.  บริหารผู้จัดการ
                  9.  การกระจายนโยบาย
                 10. การตลาด การขาย และการบริการ
                 11. การพัฒนาองค์การ

ไคเซ็นกับกระบวนการ
                 ในแนวความคิดของไคเซ็น กระบวนการต้องได้รับการปรับปรุงเสียก่อนที่จะปรับปรุงผลที่ได้รับ คือต้องคำนึงถึงไคเซ็นซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนและการใช้ความพยายามของคน
                 การบริหารแบบญี่ปุ่นจะเน้นที่การกระทำของคนงาน เมื่อผู้จัดการฝ่ายขายต้องการประเมินผลงานพนักงานขายก็ปประเมินจำนวนเวลาที่ใช้ในการติดต่อกับลูกค้าใหม่ เวลาที่ใช้ไปในการเยี่ยมลูกค้าเวลาที่ใช้สำนักงาน และร้อยละของความสำเร็จที่ได้รับ ด้วยการเอาใจใส่ต่อสิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจที่จะปรับปรุงงานของตนในโอกาสต่อไป นั่นคือ กระบวนการขายมีความสำคัญเท่าๆ กับยอดขาย
                 สำหรับประเทศในตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าพนักงานจะทำงานหนักเพียงใด หากไม่มีผลงานก็ถือว่าไร้ความสามารถ รายได้หรือตำแหน่งงานก็จะไม่ก้าวหน้าสูงขึ้นอย่างแน่นอน
                  กล่าวโดยสรุป แนวความคิดของไคเซ็นและกลยุทธ์ของไคเซ็นสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน มิใช่เฉพาะในแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมเท่านั้น แนวความคิดและเครื่องมือดังที่กล่าวมาแล้วมิได้ประสบความสำเร็จเพราะเป็นญี่ปุ่น แต่เพราะเป็นแนวความคิดที่ดี เป็นเครื่องมือที่ดีในการจัดการ กลยุทธ์ไคเซ็นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนในองค์การตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุดจนถึงพนักงานระดับล่าง

อ้างอิง
สมคิด บางโม.  องค์การและการจัดการ.  พิมพ์ครั้งที่ 6.  กรุงเทพ:  วิทยพัฒน์,  2558.


2. ศึกษาองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงาน ECT หรือ ICT in education
3. ฝึก SWOT Analysis ฝ่ายเทคโนโลยีการศึกษา องค์กรของตนเอง
4. ฝึกเขียนโครงการทาง ECT (หัวข้อรายละเอียดโครงการต่างๆ มีตัวอย่างอยู่บนหน้าเว็บแรก)
https://drive.google.com/open?id=0B0yPyFagjFu3dkl6Wk12VW5QSlk 
5. ฝึกเขียน Gantt Chart
6. ค้นคว้าบทความวิชาการ/วิจัย/แนวคิดทางการบริหารจัดการงาน ECT ที่เป็นภาษาอังกฤษ และแปล พร้อมเขียนการประยุกต์ใช้งานเพิ่มเติมของตนเองให้ชัดเจน
บทความที่สนใจ คลิกเข้าไปดูได้
https://drive.google.com/open?id=0B0yPyFagjFu3enlQOE1WeVViVk0

2 ความคิดเห็น:

  1. อย่าลืมเขียนว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร How to

    ตอบลบ
  2. นำเสนอบทความไปแล้วเรียบร้อยครับ วันนี้

    ตอบลบ

กำหนดการกิจกรรมต่างๆ

แต่ละสัปดาห์ต้องบันทึกการเรียนรู้ ประมวลความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ของแต่ะคน สัปดาห์ที่ 1 ศึกษาค้นคว้าทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดทางการบริหารจ...