ไคเซ็น (Kaizen)
ไคเซ็นเป็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น หมายถึง การปรับปรุงทุกๆ ด้านของการดำรงชีวิต ชีวิตในการทำงาน ชีวิตในสังคม ชีวิตภายในบ้านจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอโดยทุกคนต้องเกี่ยวข้องตลอดเวลา
กลยุทธ์ของไคเซ็นคือคำกล่าวที่ว่า ไม่มีสักวันเดียวที่ผ่านไปโดยไม่มีการปรับปรุงในส่วนใดส่วนหนึ่งของบริษัท
ไคเซ็นกับการบริหาร
การบริหารแบบญี่ปุ่นมีหลักยึด 2 ประการ คือ การดำรงรักษาไว้และการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การดำรงรักษาไว้ หมายถึง การรักษาระดับมาตรฐาน มอบหมายให้ทุกคนปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิธีการทำงาน ฝ่ายบริหารต้องกำหนดเป้าหมาย นโยบาย กฎเกณฑ์ สั่งการให้ทำ และควบคุมการทำงาน ถ้าพนักงานปฏิบัติได้แต่ไม่ทำต้องมีบทลงโทษทางวินัย ถ้าปฏิบัติไม่ได้จะต้องมีการฝึกอบรมให้หรือกำหนดมาตรฐานใหม่
สำหรับการปรับปรุง เนื่องจากฝ่ายบริหารระดับสูง มีความชำนาญงาน จึงเริ่มคิดปรับปรุงงานให้ดีขึ้น เมื่อพนักงานปฏิบัติได้ก็ปรับมาตรฐานให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และการแสวงหาสิ่งใหม่หรือนวัตกรรม (Innovation) นั่นคือ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้
เนื่องจากไคเซ็นเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่จะดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้งและเกี่ยวข้องกับทุกคนในองค์กรและทุกคนในระดับต่างๆ พนักงานอยู่ในระดับใดก็ไคเซ็นในระดับนั้น โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงจะต้องไคเซ็นและมุ่งนวัตกรรมมากกว่าระดับล่าง
ไคเซ็นกับกลุ่มควบคุมคุณภาพ
คงไม่มีใครค้านถึงคุณค่าของการปรับปรุง เมื่อใดและที่ใดมีการปรับปรุงพัฒนา ก็จะมีผลไปสู่การปรับปรุงจะต้องยอมรับว่า มีปัญหา เสียก่อน ไคเซ็นจะยอมรับปัญหา และมีการตรวจสอบปัญหาแล้วนำไปสู่การแก้ปัญหา ซึ่งต้องอาศัยเครื่องมือหลายอย่าง การควบคุมคุณภาพก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ได้มีความพยายามปรับปรุงการควบคุมคุณภาพ ตลอดมาจนถึงกับตั้งคณะกรรมการควบคุมคุณภาพที่สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของญี่ปุ่น เรียกย่อๆ ว่า JUSE (Union of Japanese Scientists and Engineers) ในปี ค.ศ. 1940 และต่อมาได้เชิญเดมิงให้มาสอนการควบคุมคุณภาพในญี่ปุ่น เดมิงได้เสนอให้ปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องโดยใชช้วัฏจักรเดมิง ซึ่งเน้นความสำคัญที่เกี่ยวข้องกันระหว่างการวิจัย การออกแบบ การผลิต และการขาย เพื่อจะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นที่พอใจของลูกค้า เดมิงได้ทำนายว่า ญี่ปุ่นจะมีสินค้าที่มีคุณภาพมากมายในตลาดโลก วัฏจักรเดมิงประกอบด้วย PDCA
วัฏจักรเดมิงด้านธุรกิจอุตสาหกรรม
ไคเซ็นกับการควบคุมคุณภาพรวม
ผู้บริหารในกลุ่มปะเทศตะวันตกมองการควบคุมคุณภาพรวมเป็นเรื่องเกี่ยวข้องทางเทคนิคและมองกลุ่มควบคุมคุณภาพเป็นเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์อย่างเดียวเท่านั้น ผู้บริหารระดับสูงจึงไม่ให้ความสนใจเท่าาที่ควร
แต่ในญี่ปุ่นได้พัฒนากลยุทธ์ไคเซ็นเป็นเครื่องมือในการควบคุมคุณภาพรวมใช้ในการบริหาร จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักบริหารดีเยี่ยมในศตวรรษนี้ การควบคุมคุณภาพรวมได้รับการพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลา มีการนำเครื่องมือ 7 อย่างของกลุ่มควบคุมคุณภาพมาใช้กันอย่างกว้างขวาง
การควบคุมคุณภาพรวมในญี่ปุ่นมุ่งการปรับปรุงทางด้านการบริหารทุกๆ ระดับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้
1. การประกันคุณภาพ
2. การลดต้นทุน
3. การผลิตได้ตามเป้าหมาย
4. การส่งมอบสินค้าทันตามกำหนด
5. ความปลอดภัย
6. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
7. ปรับปรุงการเพิ่มผลผลิต
8. บริหารผู้จัดการ
9. การกระจายนโยบาย
10. การตลาด การขาย และการบริการ
11. การพัฒนาองค์การ
ในแนวความคิดของไคเซ็น กระบวนการต้องได้รับการปรับปรุงเสียก่อนที่จะปรับปรุงผลที่ได้รับ คือต้องคำนึงถึงไคเซ็นซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนและการใช้ความพยายามของคน
การบริหารแบบญี่ปุ่นจะเน้นที่การกระทำของคนงาน เมื่อผู้จัดการฝ่ายขายต้องการประเมินผลงานพนักงานขายก็ปประเมินจำนวนเวลาที่ใช้ในการติดต่อกับลูกค้าใหม่ เวลาที่ใช้ไปในการเยี่ยมลูกค้าเวลาที่ใช้สำนักงาน และร้อยละของความสำเร็จที่ได้รับ ด้วยการเอาใจใส่ต่อสิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจที่จะปรับปรุงงานของตนในโอกาสต่อไป นั่นคือ กระบวนการขายมีความสำคัญเท่าๆ กับยอดขาย
สำหรับประเทศในตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าพนักงานจะทำงานหนักเพียงใด หากไม่มีผลงานก็ถือว่าไร้ความสามารถ รายได้หรือตำแหน่งงานก็จะไม่ก้าวหน้าสูงขึ้นอย่างแน่นอน
กล่าวโดยสรุป แนวความคิดของไคเซ็นและกลยุทธ์ของไคเซ็นสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน มิใช่เฉพาะในแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมเท่านั้น แนวความคิดและเครื่องมือดังที่กล่าวมาแล้วมิได้ประสบความสำเร็จเพราะเป็นญี่ปุ่น แต่เพราะเป็นแนวความคิดที่ดี เป็นเครื่องมือที่ดีในการจัดการ กลยุทธ์ไคเซ็นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนในองค์การตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุดจนถึงพนักงานระดับล่าง
อ้างอิง
สมคิด บางโม. องค์การและการจัดการ. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพ: วิทยพัฒน์, 2558.
2. ศึกษาองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงาน ECT หรือ ICT in education
3. ฝึก SWOT Analysis ฝ่ายเทคโนโลยีการศึกษา องค์กรของตนเอง
4. ฝึกเขียนโครงการทาง ECT (หัวข้อรายละเอียดโครงการต่างๆ มีตัวอย่างอยู่บนหน้าเว็บแรก)
https://drive.google.com/open?id=0B0yPyFagjFu3dkl6Wk12VW5QSlk
5. ฝึกเขียน Gantt Chart
6. ค้นคว้าบทความวิชาการ/วิจัย/แนวคิดทางการบริหารจัดการงาน ECT ที่เป็นภาษาอังกฤษ และแปล พร้อมเขียนการประยุกต์ใช้งานเพิ่มเติมของตนเองให้ชัดเจน
บทความที่สนใจ คลิกเข้าไปดูได้
https://drive.google.com/open?id=0B0yPyFagjFu3enlQOE1WeVViVk0
อย่าลืมเขียนว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร How to
ตอบลบนำเสนอบทความไปแล้วเรียบร้อยครับ วันนี้
ตอบลบ